Friday, 29 March 2024

ประวัติของจักรยาน

07 Mar 2023
231

ปก ประวัติของจักรยาน

รถจักรยาน เป็นพาหนะทางบกที่ขับเคลื่อนไปโดยกำลังของกล้ามเนื้อมนุษย์ รถจักรยานนอกจากจะต้องเบาแล้วต้องมีความฝืดที่เกิดขึ้นระหว่าง ล้อกับพื้นดินน้อยที่สุด และอาจจะเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นได้พอสมควร

ในปัจจุบันมีจักรยานหลายชนิด มีตั้งแต่ 1 ล้อ ไปจนถึงหลายล้อ หรือจักรยานที่มีการดัดแปลงแบบแปลกๆ เช่น มีล้อหน้าใหญ่แต่ล้อหลังเล็ก จักรยานยังเป็นเครื่องมือในการแข่งขันกีฬาประเภทหนึ่งด้วย วันที่ 22 กันยายน และทุกวันอาทิตย์ตลอดเดือนกันยายนเป็นวันปลอดรถ (Car Free Day) มีการรณรงค์ ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและหันมาใช้รถจักรยานเพื่อลดมลภาวะ และรักษาสิ่งแวดล้อมโลก

แล้วจักรยานคันแรกเกิดขึ้นเมื่อใด?

จักรยานคันแรกของโลกคิดค้นขึ้นในปี พ.ศ. 2382 โดยชาวสกอตแลนด์ชื่อ เคริกพาทริก แมกมิลลัน (Kirkpatrick Mcmillan) จักรยานที่ประดิษฐ์ขึ้นนั้นมีชื่อเรียกทั่วไปว่า “MacMillan Velocipede”  เป็นพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง โดยการวางเท้าไว้ที่บันไดและยกเท้าขึ้น-ลง เพื่อให้บันไดที่เชื่อมติดกับข้อเหวี่ยงของล้อหลัง เกิดการเคลื่อนที่ทำให้ล้อหมุนและเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ ทั้งนี้ตัวจักรยานยังมีน้ำหนักมากถึง 26 กิโลกรัม จึงไม่ได้รับความนิยมมากนัก

ต่อมาจักรยานได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีรูปทรงที่ทันสมัย ขับขี่ง่ายขึ้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2403 เอเนสต์ มีโชซ์ (Ernest Michaux) และปีแยร์ ลาลเลอมอง (Pierre Lallement) ชาวฝรั่งเศสพัฒนาจักรยานรุ่น “Velocipede” ขึ้น โดยติดข้อเหวี่ยงและบันไดเข้ากับล้อหน้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งล้อของ “Velocipede” ทำขึ้นจากไม้หุ้มด้วยแผ่นเหล็ก โครงรถทำด้วยท่อเหล็กกลวงทำให้สามารถผลิตได้ง่าย และรวดเร็วกว่ารุ่นก่อนๆ จากการพัฒนาดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นเหตุให้มีโชซ์ ก่อตั้งโรงงานประกอบรถจักรยานแห่งแรกของโลกขึ้นในชื่อ “Michaux & Lallement”เหตุที่คนไทยนิยมขี่จักรยานเป็นพาหนะ เพราะเริ่มมีถนนหนทางเกิดขึ้น  ความนิยมขี่จักรยานของคนไทย ยังปรากฏในวรรณกรรมขึ้นชื่อเรื่องสี่แผ่นดิน ผลงานของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชเมื่อมีความนิยมการขี่จักรยานมากขึ้น จึงมีการจัดตั้งสโมสรผู้ขี่จักรยานที่วังกรมหลวงอดิศรอุดมเดช และมีกิจกรรมการแต่งรถจักรยานด้วยดอกไม้สดประกวดกัน เป็นการทำสงครามบุปผาชาติที่สนามหลวงอย่างใหญ่โต ภายในงานการประกวดกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์กับกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงสั่งรถจักรยานมาจำหน่ายถึง 100 คัน ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจำหน่ายรถจักรยานในประเทศไทย

จักรยาน

ปัจจุบัน “จักรยาน” นอกเหนือจากการใช้เป็นยานพาหนะเฉกเช่นในอดีตแล้ว ยังนำมาเป็นกิจกรรมสันทนาการในยุคปัจจุบัน เช่น การท่องเที่ยว การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ส่วนในอนาคต “จักรยาน” จะถูกนำมาใช้งานในรูปแบบใด หรือมีพัฒนาการอย่างไรเป็นที่นิยมอยู่หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่ระบุความแน่ชัดได้ยาก เพราะสิ่งต่างๆย่อมเปลี่ยนผ่านตามกาลเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตความเป็นอยู่รวมถึงบริบททางสังคมของผู้คนในสมัยนั้น

ในปัจจุบันมีจักรยานมากมายหลายประเภท วันนี้ foromarbella จะยกตัวอย่างให้คุณได้รู้จักจักรยานแบบต่างๆนะคะ

1.จักรยานเสือหมอบ (Road Bikes)

ดีไซน์หลักของ road bike ถูกออกแบบมาให้ขี่ได้เร็ว บนถนนผิวเรียบ เน้นขี่ทำความเร็ว ใช้แข่งขันทางความเร็ว ท่าขี่จะก้มตัวมาก ใช้พลังเยอะเวลาขี่ โดยมีแฮนด์โค้งลงตามชื่อลักษณะ”หมอบ” หรือเรียกว่า “drop handlebar” และจะเลือกใช้ยางหน้าแคบเพื่อลดแรงเสียดทาน วัสดุตัวเฟรมปัจจุบันทำด้วย fiber carbor หรือ light weight aluminum เพื่อลดภาระการแบกน้ำหนัก แต่จักรยานประเภทนี้ไม่เหมาะเลยกับทางที่ไม่เรียบ แม้เพียงเล็กน้อย จะขี่ไม่สบาย มีความสะเทือนสูง มีความเสื่ยงเสียหายจากตกหลุม หรือถนนไม่เรียบ และไม่เหมาะกับการมีสัมภาระใดๆ

2.จักรยาน Cyclocross Bikes

มันคือรุ่นย่อยของ road bike ใช้แฮนด์ดรอปเหมือน road bike ทั่วไป แต่ออกแบบให้ลุยได้มากกว่า สามารถวิ่งได้หลายพื้นผิว พื้นเรียบ พื้นปูนทรายขรุขระ กรวด และหญ้า ด้วยยางที่หน้ากว้างกว่า หนากว่า มีดอกยาง และลุยได้มากกว่า (แน่นอน มันต้องหนักกว่าและฝืดกว่า) วัสดุเฟรมอาจใช้วัสดุที่แข็งแรงที่รับแรงกระแทกได้มากกว่า เช่น chromoly หรือ titanium และอาจเห็นระบบเบรกที่ต่างออกไป เพราะต้องเจอกับความสกปรกจากดินโคลนในทาง off-road ได้ (เราอาจได้ยิน cross bike หรือ cx bikes ก็คือ cyclocross เช่นกัน)

3.จักรยาน Adventure Road Bikes

ถูกจัดเป็นจักรยานประเภทใหม่ โดยออกแบบมาให้ใกล้เคียงทั้งรูปทรงและการใช้งานกับ cyclocross คือเป็น all-road bikes หรือ any-road bikes ลุยได้ แต่ออกแบบเฟรมให้จักรยานยาวขึ้น และท่าขี่ตัวตั้งขึ้นมากกว่า cx เล็กน้อย เพื่อให้มีความสบาย รองรับการขี่ที่นานขึ้น ขี่ได้ทั้งวัน หรือเป็น light touring bikes

จักรยานเสือหมอบ

4.จักรยาน Triathlon/Time Trial Bikes

TT เป็นจักรยานที่เน้นความ aerodynamic เพื่อขี่ได้รวดเร็วที่สุด ด้วยรูปแบบและท่าขี่ก้มและยืดตัวไปข้างหน้ามากๆ ลดแรงปะทะของลม เพื่อต้องการความเร็วสูง จะใช้ขี่ในทางราบและเรียบ ไม่มีอุปสรรคบนถนน ระบบเกียร์จะทดให้เร็วที่สุด แต่จะหนักมากในตอนออกตัว เน้นความลื่นไหลในความเร็วปลาย จะว่าเป็นรถจักรยานที่ก้มหน้ากมตาปั่นทำเวลากันอย่างเดียวก็ว่าได้

5.Fitness Bikes

เป็นจักรยานที่เอาข้อดีของ road bikes คือเฟรมเบา ยางหน้าแคบ ขี่ได้เร็วดี แต่ใช้แฮนด์ตรง (“flat hanndlebar”) หรือ แฮนด์ยกเล็กน้อย (“upright handlebar”) ใช้ขี่บนถนนเรียบ เป็นทางเลือกสำหรับคนชอบขี่จักรยานเร็วแต่ไม่ชอบแฮนด์ตรอป หรือจะเลือกใช้หน้ายางกว้างหน่อยเพื่อขี่ที่ถนนขรุขระขึ้นก็ได้ เราอาจเรียกว่า flat-bar road bikes หรือ performance hybrid bikes

สนับสนุนโดย jilislot.win