ทำความรู้จัก…ไหมพรม

สิ่งเก่าที่สุดที่ถูกมนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นด้วยการถักไหมพรมก็คือถุงเท้า ซึ่งเชื่อกันว่า ถุงเท้าและถุงเท้ายาวเป็นสิ่งที่ได้ถูกทำขึ้นมาโดยการใช้เทคนิคที่คล้ายๆ กับการถักไหมพรม โดยถุงเท้าเหล่านี้ได้ถูกทำขึ้นด้วยวิธีที่เรียกว่า Nalebinding ซึ่งเป็นเทคนิคในการใช้เข็มเพียง 1 อันทำเส้นใยผ้าไหมให้เป็นห่วงปมหลายๆ ปม หรือหลายๆ ชิ้นงานของเครื่องนุ่งห่มที่มีอยู่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยการใช้เทคนิค Nalebinding ซึ่งส่วนหนึ่งก็มองดูแล้วคล้ายๆ กับการถักนิตติ้ง แม้ในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเทคนิคแบบใดซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสับสนระหว่างการถักไหมพรมกับโครเชร์

ชาวสก๊อตแลนด์ในช่วงศตวรรษที่ 17-18 ชาวเกาะสก๊อต ได้มีการถักไหมพรมเพื่อทำเป็นอาชีพในครัวเรือนไม่ว่าจะเป็นการถักเป็นเสื้อกันหนาว (สเวตเตอร์) สิ่งของต่างๆ ถึงเท้า ถุงเท้า เป็นต้น ชาวเกาะมีการคิดค้นเทคนิคต่างๆ ในการถัก ทำเป็นรูปแบบแพทเทิร์นหลากสีสัน เสื้อกันหนาวเป็นเครื่องนุ่งห่มที่จะเป็นและมีความสำคัญมากสำหรับชาวเกาะจะถูกถักขึ้นจากขนสัตว์เพื่อใช้กันหนาวในยามที่ต้องออกเรืองประมง ซึ่งต้องผจญกับอากาศที่เลวร้ายมากงานหลายๆ ชิ้นถูกออกแบบและทำขึ้นอย่างปราณีต

คศ.1939-1945 เป็นยุคเฟื่องฟูของการถักไหมพรม ขนแกะขาดแคลนเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับสิ่งต่างๆ ผู้หญิงมีการหันมาเลาะตะเข็บจากเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเก่าๆ ที่ไม่ใช้งานแล้วตลอดจนขนสัตว์ก็ได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง มีการสร้างแพทเทิร์นการถักไหมพรมขึ้นมากเพื่อให้ประชาชนได้ถักเครื่องนุ่งห่มให้กับกองทัพทหารไว้สวมใส่ในช่วงฤดูหนาว เช่น หมวกไหมพรม ถุงมือ เป็นต้น นี่ก็ไม่เพียงแค่เป็นการผลิตสิ่งจำเป็นต่างๆ ของกองทัพเหล่านั้นแต่ยังเป็นการประสบความสำเร็จในการสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้กับประชาชนในเรื่องสงครามได้ที่เรียกว่า Home Front

คศ.1950 และ 60 เป็นยุคแห่งเครื่องนุ่งห่มภายหลังการเกิดสงคราม การถักไหมพรมได้เผยแพร่เป็นอย่างมากในเรื่อง เริ่มมีการผลิตไหมหลากหลาย สีสันและรูปแบบหลายๆ พันแพทเทิร์นที่มีสีสันสดใสกลายเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากในยุคนี้ชุดที่ประกอบไปด้วยเสื้อแขนสั้นสีเดียวกับเสื้อขนสัตว์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยุคศตวรรษที่ 21 เป็นยุคแห่งการฟื้นฟูหลังจากที่การถักไหมพรมเสื่อมถอยลงให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง เส้นใยธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยจากสัตว์ เช่น พวกอัลพาคาร์ แองกอร่า และมาริโน เป็นต้น หรือจะเป็นพวกเส้นใยจากพืชซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเส้นใยจากฝ้าย เนื่องจากหาได้ง่าย ราคาไม่แพง หาได้ทั่วไป

วันนี้ foromarbella จะมาไขข้อสงสัยด้วยเรื่อง “ประเภทของไหมพรม” เพราะเมื่อเรารู้และเข้าใจ ก็จะทำให้เลือกซื้อได้ถูกต้อง เหมาะกับการใช้งาน และดูแลรักษาได้ถูกวิธีอีกด้วย

ไหมทำมาจากวัสดุ 2 ประเภท คือ ไหมธรรมชาติ และไหมสังเคราะห์

1.ไหมธรรมชาติ ทำจากพืช ได้แก่

– คอตต้อน (Cotton) ไหมชนิดนี้เหมาะกับอากาศร้อนอย่างบ้านเรา เส้นไหมมีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับงานที่ต้องซักบ่อยๆอย่างชุดเด็กเล็ก

– ลินิน (Linen) เป็นเส้นไหมที่ทำมาจากต้นลินิน มีความทนทาน ง่ายต่อการดูแลรักษา เหมาะกับอากาศร้อน แต่มี ข้อเสียคือยับง่าย ลินินมักใช้ทำเสื้อคาร์ดิแกนและสเวตเตอร์

– ป่านหรือใยกัญชง (Hemp) เส้นใยจากพืชที่มีความคล้ายคลึงกับลินิน เป็นเส้นไหมที่แข็งแรง ทนความร้อน ยืดหยุ่นได้ดี มักใช้กับส่วนงานตกแต่งหรือพวกชุดหลวมๆ

– ไผ่ (Bamboo) ไหมที่ได้มาจากเยื่อของไม้ไผ่ ทำจากเซลลูโลสไม้ไผ่ ซึ่งเส้นใยไม้ไผ่เป็นอินทรีย์ธรรมชาติ  สัมผัสนุ่มลื่น เส้นใยเงามัน ลื่น ระบายอากาศได้ดี ไม่หมักหมมเชื้อแบคทีเรีย แต่ไหมไผ่มีข้อเสียในเรื่องไม่ทนน้ำ จึงไม่เหมาะกับงานที่ต้องซักบ่อยๆ

2.ทำจากสัตว์ ได้แก่

– วูล (Wool) เป็นเส้นไหมที่ทำมาจากขนสัตว์ เช่น ขนแกะ ไหมวูลมีความทนทาน ยืดหยุ่น และไม่ยับง่าย ไหมวูลจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามประเภทของขนสัตว์ที่นำมาใช้ทำไหม เช่น Merino Wool เป็นไหมเส้นละเอียดและนุ่มนิ่ม แต่หากเป็น Pure New Wool จะมีเส้นไหมที่หยาบกว่า แต่มีข้อดีที่กันน้ำได้ดีกว่า ไหมวูลมักใช้กับงานสเวตเตอร์ หมวก ผ้าพันคอ และถุงมือ แต่มีข้อควรระวังคือ ไหมวูลจะไม่เหมาะกับคนแพ้ง่าย

– โมแฮร์ (Mohair) ทำมาจากขนแพะแองโกลา มีลักษณะเบาและอุ่น โมแฮร์มักผสมกับวูลหรือไนลอนเพื่อลดความคันที่เกิดจากลักษณะขน เช่นเดียวกับวูล โมแฮร์เหมาะกับงานสเวตเตอร์ หมวก ผ้าพันคอ และถุงมือ

– อัลปาก้า (Alpaca) ทำมาจากขนสัตว์ตระกูลลามะที่หน้าตาน่ารักๆนั่นละค่ะ เป็นขนที่มีความอ่อนนุ่ม อุ่นมาก และเบา ราคาถูกกว่าแคชเมียร์ ใช้กับงานถัก เช่น หมวก ผ้าพันคอ และสเวตเตอร์

– แองโกรา (Angora) ทำมาจากขนกระต่ายแองโกรานุ่มน่ารัก แต่มีข้อเสียคือเส้นไหมแตกง่าย ราคาก็แพง จึงมักผสมกับไหมอื่นๆเพื่อทำให้แข็งแรงทนทานขึ้นด้วย มักใช้งานหมวกและสเวตเตอร์

– แคชเมียร์ (Cashmere) ทำมาจากขนแพะแคชเมียร์ มีลักษณะนุ่มที่สุด หรูหราที่สุด และแน่นอนว่าราคาแพงที่สุด อีกทั้งไม่ยับง่ายอีกด้วย เรียกว่าดีไปเสียทุกอย่าง เหมาะกับงานสเวตเตอร์และผ้าพันคอ

– ไหม (Silk) ทำมาจากตัวไหม เป็นเส้นไหมที่เงาสวยและทน แต่ไม่ค่อยคืนตัว คือเสื้อผ้าที่ทำจากไหม เมื่อใส่แล้วยืดตามตัว ไม่หดกลับ ราคาแพง และยังดูแลรักษายากอีกด้วย

สนับสนุนโดย baccarat77.co