โซล่าเซลล์ (solar cell) หรือที่เรียกกันว่า เซลล์โฟโตโวลตาอิก (Photovoltaic cell) คือการผลิตไฟฟ้าจากแสงที่ตกกระทบวัตถุที่สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้หรือไฟฟ้าที่มาจากเเสงนั่นเอง
โซล่าเซลล์ (Solar cell) เป็นอีกหนึ่งการพัฒนาที่สรรสร้างคุณประโยชน์มากมายให้ผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นลดค่าไฟสามารถคืนทุนได้ในอนาคตใช้พลังงานจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะแก่โลกและที่เลิศสุดๆคือสามารถขายไฟให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือการไฟฟ้านครหลวงกลับคืนมาเป็นเงินได้อีกด้วย
โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) มีอายุการใช้งานประมาณ 20-25 ปี และจะผลิตไฟฟ้าในขณะที่มีเเดดตอนกลางวัน เก็บไว้ในเเบตเตอร์รี่ ซึงไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) จะเป็นไฟฟ้ากระเเสตรง หากนำมาใช้งานในรูปของไฟฟ้ากระเเสสลับ 220V จะต้องใช้ Inverter เพื่อทำการแปลงค่า และเมื่อไฟฟ้าจาก โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ถูกเเปลงเป็นกระเเสสลับ 220 V เเล้วสามารถนำมาใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ทีวี ตู้เย็น พัดลม คอมพิวเตอร์ หลอดไฟ เครื่องชาร์ตโทรศัพท์ เป็นต้น ส่วนจะใช้ได้นานเเค่ไหนขึ้นอยู่กับปริมาณไฟฟ้าที่โซลาร์เซลล์ผลิตได้ และ อัตราการใช้ไฟฟ้าของเครื่องมือเครื่องใช้แต่ละชนิด
เครื่องมือที่เกี่ยวข้องสำหรับการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
เครื่องวัดพลังงานเเสงอาทิตย์ ใช้สำหรับตรวจเช็คค่าพลังงานแสงอาทิตย์ก่อนที่จะติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ เพื่อรับแสงและเก็บพลังงานให้ได้มากที่สุด เช่นรุ่น SPM-1116SD เครื่องวัดความเข้มเเสงอาทิตย์ สำหรับวัดค่าปริมาณแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบต่อพื้นที่นั้นๆ ณ วินาทีที่ทำการวัด เช่นเซ็นเซอร์รุ่น SR12 และตัวอ่านค่า LI19 พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์สามารถใช้ได้ทั้งไฟฟ้ากะเเสตรงเเละกระเเสสลับ ซึงมีประโยชน์มากมายต่อการใช้งาน อย่างไร foromarbella แนะนำว่าให้ใช้ไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์จะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และควรศึกษาข้อมูลอย่างถูกต้องก่อนใช้งาน
ประเภทของแผงโซล่าเซลล์
แบบโมโนคริสตัลไลน์ ซิลิกอน(Monocrystalline Silicon) หรือโมโน(Mono)
แผงโซล่าเซลล์ แบบโมโน เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด แผงโซล่าเซลล์ชนิดโมโนทำมาจากแท่งซิลิกอนที่มีความบริสุทธิ์สูง โดยเริ่มมาจากการกวนให้ผลึกเกาะกันที่แกนกลาง จึงทำให้เกิดแท่งทรงกระบอก จากนั้นนำมาตัดให้เป็นสี่เหลี่ยมและลบมุมทั้ง 4 ออกเพื่อที่จะทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
แบบโพลีคริสตัลไลน์ ซิลิกอน(Polycrystalline Silicon) หรือโพลี (Poly)
แผงโซล่าเซลล์แบบโพลี เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่คุณภาพเกือบเทียบเท่าแบบโมโนคริสตัลไลน์ ทำมาจากซิลิกอนเช่นเดียวกับแบบโมโน แต่ชนิดของซิลิกอนที่ใช้นั้นบริสุทธิ์น้อยกว่าแบบโมโน
แบบอะมอร์ฟัส (Amorphous)
กระบวนการผลิตแผงโซล่าเซลล์ แบบอะมอร์ฟัส แตกต่างจากแบบโมโนและโพลีโดยสิ้นเชิง กระบวนการผลิตฟิลม์บางเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ มีใช้อยู่ประมาณ 5% ในตลาด แผงโซล่าเซลล์แบบฟิลม์บาง ได้รับความนิยมในโซล่าฟาร์มขนาดใหญ่ แต่พบได้น้อยในตลาดที่อยู่อาศัย ประสิทธิภาพเฉลี่ยในการผลิตพลังงานคือ 7-13%
1.ระบบออนกริด (On-grid)
ระบบออนกริดไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ เนื่องจากระบบนี้จะเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า โดยมีการใช้ไฟจากโซล่าเซลล์และไฟจากการไฟฟ้า ระบบนี้จะมีไฟใช้ตลอดเวลา เพราะไฟฟ้าจากระบบการไฟฟ้าหรือไฟบ้าน จะไหลเข้ามาเสริมพลังงานจาก solar cell ที่หายไปตลอดเวลา ไฟฟ้าที่ผลิตเหลือจากการใช้ในแต่ละวัน สามารถขายคืนให้กับทางภาครัฐได้ ทางผู้ใช้จะต้องทำสัญญากับทางภาครัฐตามขั้นตอน
ระบบนี้เป็นระบบที่นิยมใช้มากที่สุด ทั้งบ้านและภาคธุรกิจ รวมไปถึงโรงงานอุตสาหกรรม เพราะเน้นการใช้งานโซล่าเซลล์ในเวลากลางวัน และตอนกลางคืนสลับไปใช้ไฟจากการไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจติดตั้งระบบโซล่าเซลล์
2.ระบบออฟกริด (Off-grid) หรือระบบอิสระ
ระบบออฟกริดจะไม่เชื่อมต่อกับสายของการไฟฟ้าฯ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่การไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือต้องการใช้เพื่อสำรองไฟไว้ใช้เมื่อยามที่ไฟฟ้าดับ สามารถใช้ร่วมกับแบตเตอรี่หรือไม่ร่วมกับแบตเตอรี่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้งาน ในกรณีที่ใช้ร่วมกับแบตเตอรี่กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัว Charge controller เพื่อเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ ในช่วงกลางวันที่มีแสงอาทิตย์เพียงพอ
กระแสไฟฟ้าโซล่าเซลล์จะสามารถผลิตไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และใช้ Inverter(อินเวอร์เตอร์) แปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน และส่วนที่ผลิตเกินออกมาจะถูกนำไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ในเวลากลางคืนระบบก็จะใช้กระแสไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่
ระบบออฟกริด จำเป็นต้องอาศัยการคำนวณที่ถูกต้องของปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้าน เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานในประจำวัน หรือแม้แต่ในฤดูที่มีแสงแดดน้อย ในกรณีที่แบตเตอรี่เก็บไฟฟ้าได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ ซึ่งอาจจะมาจากสาเหตุ ฝนตก ท้องฟ้ามืดครึ้ม
สนับสนุนโดย ufa345vip.com