“ โรคตาแห้ง ” โรคสุดฮิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของคนวัยทำงาน ความจำเป็นที่ต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ทุกวัน และทุกเวลาของคนวัยทำงาน
foromarbella จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงโรคตาแห้ง (DRY EYE) คือ การที่ปริมาณน้ำตาที่มาหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื้นให้กับดวงตาเคลือบกระจกตาดำไม่พอ พบในผู้ป่วยทุกเพศและทุกวัย แต่พบบ่อยมากในผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือน ตาแห้งเป็นโรคตาที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอหรือมีการระเหยของน้ำตาที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายตา เช่น เคืองตา แสบตา ตาแห้ง เป็นต้น
โดยปกติน้ำตาถูกสร้างจากต่อมน้ำตา 2 กลุ่มได้แก่
– ต่อมน้ำตาที่เป็นเซลล์เล็กๆ ซึ่งฝังตัวอยู่บริเวณเยื่อเมือกที่คลุมตาขาวและด้านในของเปลือกตา มีหน้าที่ผลิตน้ำตาออกมาหล่อลื่นตาตลอดทั้งวัน ในภาวะปกติเรียกว่า Basic Tear Secretion
– ต่อมน้ำตาใหญ่ อยู่ใต้โพรงกระดูกเบ้าตาบริเวณหางคิ้ว มีหน้าที่ผลิตน้ำตาออกมาเฉพาะเวลาที่มีอารมณ์ต่างๆ เช่น อาการเจ็บปวด ระคายเคืองตา ดีใจหรือเสียใจ เรียกว่า Reflex Tearing
อาการของโรคตาแห้ง
– แสบตา
– ระคายเคืองตาเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา
– มองเห็นภาพไม่ชัด
– ต้องหรี่ตาหรือหลับตาเมื่อสัมผัสกับแสง
– แสบตาง่ายเมื่อลมพัดเข้าตา
สาเหตุและปัจจัยของโรคตาแห้ง
– สิ่งแวดล้อม เช่น ลมแรง และสภาพอากาศแห้ง
– จ้องอุปกรณ์ดิจิทัล เช่นโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานาน
– อายุมากขึ้น โดยเฉพาะเพศหญิง
– ยา เช่น ยารักษาสิว และยารักษาโรคภูมิแพ้
– การผ่าตัดหนังตาหรือการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา
– การใส่คอนแทคเลนส์
ผลที่ตามมาจากภาวะตาแห้ง
– หากปล่อยให้มีภาวะตาแห้งโดยไม่ทำการรักษา อาจส่งผลให้เกิดภาวะอื่นๆ ตามมา เช่น
– การอักเสบของเปลือกตา
– การดึงรั้งของเปลือกตาทำให้ขนตาลงมาทิ่มตา
– กระจกตาเป็นแผล
ผลเสียที่เกิดจากภาวะตาแห้งคืออะไร?
โรคนี้จะส่งผลโดยตรงทำให้ผิวกระจกตาอักเสบ เนื่องจาก เมื่อมีอาการระคายเคืองตา คนส่วนใหญ่มักขยี้ตา จึงทำให้ตาติดเชื้อแบคทีเรีย จนอาจส่งผลทำให้ตาแดง และอักเสบได้นั่นเอง
วิธีการรักษา และป้องกันโรคตาแห้ง
– ใช้น้ำตาเทียม
– เลี่ยงการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลต่อเนื่องเป็นเวลานาน
– พักสายตาทุกๆ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยมองไปที่ไกล ๆ อย่างน้อย 6 เมตร นาน 2-5 นาที
– พบจักษุแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น
วิธีและขั้นตอนในการอุดรูระบายน้ำตามี 2 วิธี คือ
การอุดแบบชั่วคราว และการอุดแบบถาวร สำหรับการอุดแบบชั่วคราว จักษุแพทย์จะสอดคอลลาเจนขนาดเล็กเข้าสู่ไปในรูท่อน้ำตา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตาขึ้น โดยคอลลาเจนจะสลายไปเองภายใน 3 สัปดาห์ สำหรับผู้ป่วยที่มีตาแห้งมาก จักษุแพทย์จะอุดรูระบายน้ำตาแบบถาวรให้ ทั้งนี้จะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
ลดอาการตาแห้ง ด้วยอาหาร 4 ประเภท
กินอาหารลดอาการตาแห้ง
– กล้วย กินกล้วยทุกวัน เพราะกล้วยมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจะทำงานร่วมกับโซเดียมเพื่อรักษาภาวะสมดุลน้ำในร่างกาย และช่วยให้ดวงตาของคุณชุ่มชื้นอยู่เสมอ
– ถั่ว ประเภทนัท (Nut) ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะวอลนัต ควรรับประทานวันละประมาณ 1 กำมือ เพราะถั่วประเภทนี้มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในน้ำตา
– ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่าหรือปลาแซลมอน เพราะมีกรดไขมันที่จำเป็นหรือโอเมก้า-3 ด้วย
– น้ำมัน ปอ (Flexseed oil) หรือน้ำมันเมล็ดลินิน จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมกรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างเพียงพอ โดยรับประทานวันละ 1 ช้อนโต๊ะ หรือผสมในซีเรียลแล้วรับประทานก็ได้
ปรับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม
– หลีก เลี่ยงการทำงานในบริเวณที่มีแสงจ้าและลมแรง เพราะจะทำให้ตาแห้งเร็ว ควรใส่แว่นกันแดดช่วย โดยเลือกแว่นขนาดใหญ่ที่มีขอบด้านข้าง เพื่อช่วยลดการระเหยของน้ำตา
– หลีก เลี่ยงสถานที่ที่มีอากาศแห้ง และเย็นจัด เช่น ห้องปรับอากาศ ตลอดจนหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่นละอองและควันต่าง ๆ เช่น บุหรี่ ซึ่งจะทำให้เกิดการระคายเคืองตา
– อย่าเป่าลมร้อนจากเครื่องเป่าผมเข้าตาโดยตรง รวมทั้งปรับไม่ให้เครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมเป่าโดนตาหรือใบหน้าโดยตรง
– พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนไม่พออาจทำให้ตาแห้งและตาแดงช้ำ เนื่องจากเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยงดวงตาบวม การพักผ่อนให้สมดุลจึงดีต่อดวงตาที่สุด
สนับสนุนโดย ufa079.co